แม้ว่าในตอนแรกที่ตัวเลขเงินเฟ้ออเมริกาจะออกมาลดลงต่ำกว่าคาด และเริ่มส่งสัญญาณการอ่อนตัวแล้ว แต่ดัชนีดาวโจนส์ (US30) ที่ตอนแรกขานรับกับข่าวดีนี้กลับปรับตัวลดลงเมื่อต้องเผชิญกับด่านแนวต้านที่แข็งแกร่ง
กราฟ US30 รายวัน
การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐในตอนท้ายของวันคือความกังวลที่ตลาดลงทุนมีต่อผลการประชุมดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันนี้ แม้ว่าดัชนีดาวโจนส์จะปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ก็ทำได้เพียงราคาปิดเหนือระดับ 34,000 จุดเท่านั้น นักลงทุนต่างหวังว่าผลการประชุม FOMC ในคืนนี้จะพาดาวโจนส์ให้สามารถขึ้นไปถึง 34,275 จุดได้
ตามข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในช่วง 12 เดือนจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนออกมาอยู่ที่ 7.1% ลดลงจาก 7.7% ในเดือนตุลาคม นี่เป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปีและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ต้นทุนบางรายการยังคงเพิ่มขึ้น เช่น ที่อยู่อาศัย ที่ไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง
ในปีนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า ธนาคารกลางจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อศึกษาผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วยสนับสนุนการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อด้วยการแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานจำนวนมากที่เกิดจากโควิด เช่นต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจากสมาคมยานยนต์ AAA เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่าราคาเฉลี่ยของน้ำมันเบนซิน 1 แกลลอนในสหรัฐอเมริกาตอนนี้มีราคาต่ำกว่าปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ลดลงเพราะได้แรงหนุนจากความคาดหวังด้านอุปสงค์ที่ลดลง