หลังจากที่ตลาดลงทุนอเมริกาปิดทำการในวันพุธ บริษัทเอ็นวีเดีย (NVDA) ก็ได้รายงานผลประกอบการของไตรมาสล่าสุด ซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ยกตัวอย่างเช่นการทำให้หุ้นของบริษัทซุปเปอร์ ไมโคร คอมพิวเตอร์ (SMCI) ร่วงลง 20% เพราะบริษัทขอเลื่อนการรายงานประจำปีออกไปจากการวิเคราะห์ที่ดูทรงแล้วจะออกไปทางที่แย่มากกว่าดี
กราฟ SMCI รายวัน
ราคาหุ้นของ SMCI ยังคงตกต่ำอย่างต่อเนื่อง และแนวรับที่สำคัญจะอยู่ที่ 356 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลในปีนี้เกือบ 30% แนวรับล่าสุดในปี 2023 ที่ 228 ดอลลาร์อาจไปถึงได้หากข้อมูลรายได้ที่ออกมาติดลบ
หุ้นซูเปอร์ไมโครคอมพิวเตอร์ปิดตลาดด้วยการปรับตัวลดลงมากกว่า -19% หลังจากที่ระบุว่าจะชะลอการยื่นรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2024
ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทถูกวิเคราะห์ไปในเชิงลบจาก Hindenburg Research นักลงทุนจึงเข้าชอร์ต บริษัทวิจัยอ้างถึงข้อกังวลหลายประการเกี่ยวกับหลักปฏิบัติทางบัญชีของบริษัทและการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น
แม้จะมีการชำระหนี้ 17.5 ล้านดอลลาร์กับหน่วยงานกำกับดูแลในเดือนสิงหาคม 2020 แต่ประเด็นการละเมิดข้อกำหนดทางบัญชี Hindenburg กล่าวว่าบริษัทยังคงดำเนินการไปในแนวทางปฏิบัติที่น่าสงสัยไม่นานหลังจากนั้น และจ้างพนักงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางบัญชีอีกครั้ง
“น้อยกว่า 3 เดือนหลังจากจ่ายเงินชดเชยให้กับ SEC มูลค่า 17.5 ล้านดอลลาร์ Super Micro ก็เริ่มจ้างผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องอื้อฉาวทางบัญชีอีกครั้ง ตามบันทึกการดำเนินคดีและการสัมภาษณ์อดีตพนักงาน” รายงานกล่าว
การที่ซูเปอร์ไมโครติดต่อกับประเทศที่ถูกคว่ำบาตรก็ทำให้ถูกตั้งคำถามเช่นกัน แม้จะยอมรับว่าเป็นผู้ส่งออกชิปที่ถูกแบนไปยังอิหร่านในปี 2006 และการยินดีปฏิบัติตามคำสั่งห้ามส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังรัสเซีย รายงานดังกล่าวระบุว่าการส่งออกไปยังรัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนยังคงมีความมั่นใจในบริษัทแห่งนี้ นักวิเคราะห์ของ Rosenblat กล่าวว่าแม้เรื่องความล่าช้ากับประเด็น 10-K จะ “ไม่ได้ดูดี” แต่การดิ่งลงเกือบ 20% ในหุ้น SMCI “ดูเหมือนจะมากเกินไปเมื่อพิจารณาว่าสิ่งที่ Hindenburg ให้ข่าวนั้นว่าเป็นข่าวเก่าหรือไม่ถูกต้อง”
ข้อกล่าวหาต่อบริษัทผู้ผลิตชิปจะมีผลในระยะกลาง อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเผชิญกับความผันผวนเพิ่มเติมหลังรายงานผลประกอบการของ Nvidia ในวันพุธ
ผู้ผลิตชิปได้ผลักดันให้ตลาดหุ้น AI พุ่งสูงขึ้น แต่บริษัท Santa Clara กลับเป็นผู้นำตลาด บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สอดคล้องกับความคาดหวัง และเชื่อว่าจะสูงขึ้นอีกสำหรับไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลับลดลงมากกว่า 4% หลังตลาดปิดทำการ