ในวันพฤหัสบดีนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานผลประกอบการของบริษัทอี-คอมเมิร์ชยักษ์ใหญ่ของจีนที่รู้จักกันดีในชื่อ “อาลีบาบา” (BABA)
กราฟหุ้น BABA รายสัปดาห์
หุ้นอาลีบาบา (BABA) ปรับตัวขึ้นสองเท่าจากจุดต่ำสุดที่ 58 ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนตุลาคม จนสามารถสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $94 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาขึ้นยังคงเหมือนเดิม โซนราคา $85-95 อาจเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในการมองหาจุดต่ำสุด
นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 ของบริษัท Alibaba Group Holding Limited จะเน้นย้ำถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีคลาวด์ที่แข็งแกร่งขึ้น ระบบคลาวด์ของบริษัทมีส่วนช่วยในการเติบโตของรายได้ในภาพรวม ในไตรมาสที่แล้ว รายได้จากคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 2.08 หมื่นล้านหยวน (2.9 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายได้ทั้งหมด
ลูกค้าระดับองค์กรยอมที่จะชำระค่าบริการเพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีคลาวด์มากขึ้น นี่เป็นแรงหนุนจากความพยายามของอาลีบาบาในการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์คลาวด์ ระบบนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสที่สามของปีงบการเงิน ที่สำคัญ บริการคลาวด์ที่แข็งแกร่งของอาลีบาบา ซึ่งขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, แมชชีนเลิร์นนิง และอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง คาดว่าจะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในวงการสถาปัตยกรรมคลาวด์
อาลีบาบาใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างระบบคลาวด์แบบไร้เซิร์ฟเวอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าต้องเป็นผู้จัดการเซิร์ฟเวอร์เอง พร้อมกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีใหม่ๆ
การเติบโตเทคโนโลยีขั้นสูงเช่น Big Data และ AI ลงในอีคอมเมิร์ซของ BABA ก็คาดว่าจะช่วยมอบประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น จำนวนสมาชิกที่ชำระเงินที่เพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์ม alibaba.com และบริการเสริมที่มั่นคงแบบไร้พรมแดนน่าจะส่งผลดีต่อการค้าระหว่างประเทศ