หลังจากที่ได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดตลอดกาลล่าสุด ราคาทองคำก็ได้ปรับฐานมาโดยตลอดและอาจพยายามที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง
กราฟราคาทองคำรายวัน
ราคาทองคำซื้อขายอยู่ที่ 2,382 ดอลลาร์ และกำลังมองหาแรงผลักดันใหม่ที่จะมาทำให้ราคาสูงขึ้นอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลล่าสุดที่อยู่สูงกว่า 2,400 ดอลลาร์
ทองคำได้รับแรงสนับสนุนหลังจากอิหร่านเข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้งในตะวันออกกลางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยเอาชนะแรงกดดันจากท่าที hawkish ของธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยได้
ด้วยปัจจัยภายนอกที่หนุนทองคำ Goldman Sachs จึงเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเป็น 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยอ้างถึงเสถียรภาพของโลหะมีค่าตามข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ นั่นแสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อเนื่องจากนักลงทุนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงในระยะกลาง
ธนาคารกลางยังคงซื้อทองคำมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางจีนเพิ่มทองคำสำรองจำนวน 160,000 ทรอยออนซ์ในเดือนมีนาคม ตุรกี อินเดีย คาซัคสถาน และบางประเทศในยุโรปตะวันออกซื้อทองคำในปี 2024
นั่นเป็นสัญญาณอีกประการหนึ่งที่ประเทศต่างๆ เริ่มกระจายความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์สหรัฐและหนี้สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความตึงเครียดในภูมิรัฐศาสตร์โลก
“ตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนมิถุนายน แม้ว่าจะมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง แต่หากเรายังคงเห็นข้อมูลตัวเลขตลาดแรงงานหรือเงินเฟ้อสูงขึ้น ก็จะสามารถอนุมานได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่รีบร้อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย ทองคำก็จะไม่สามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นเอาไว้ได้” นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าว
จากข้อมูลการแลกเปลี่ยนเมื่อวันศุกร์ในสัปดาห์ที่นับถึงวันที่ 2 เมษายน นักลงทุนทองคำ COMEX เพิ่มสถานะ Long สุทธิของตน 20,493 สัญญาเป็น 178,213 สัญญา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าการนำเข้าโลหะเงินของอินเดียในเดือนกุมภาพันธ์ยังสูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากภาษีที่ลดลงทำให้เกิดการซื้อสินค้าจำนวนมากจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์