วันนี้ถือเป็นวันสำคัญสำหรับการลงทุนใน EURUSD เมื่อจะมีการรายงานข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่ถือว่าสำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้อย่างตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมันและรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
กราฟ EURUSD รายสัปดาห์
EURUSD ในปี 2023 ได้ปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ และการไม่สามารถขึ้นไปเหนือ 1.0736 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ทำให้คู่กราฟมองหาแนวรับเพื่อสะสมแรงใหม่ แนวรับแรกนั้นอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ราคา 1.058 โดยมีเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นที่แข็งแกร่งใอยู่กล้กับระดับ 1.0400
ความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากประธานเฟดระดับภูมิภาคอย่างนางลอแรตตา เมสเตอร์และเจมส์ บลูราร์ด มีความเห็นไม่เหมือนกัน พวกเขามองว่าเฟดในช่วงต้นปีนี้ยังมีโอกาสที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 50 bps เป็น 25 bpsได้ ทั้งคู่มีความเห็นต่างกันในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ย 50 bps และคำเฉลยนี้อาจจะปรากฎออกมาในรายงานผลการประชุมของเฟดในคืนนี้ ผู้กำหนดนโยบายทั้งสองมีความกระตือรือร้นก่อนทราบข้อมูลรายงานการประชุมในเดือนมกราคม ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงและยอดค้าปลีกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยทั้งหมดนี้ได้ทำให้การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาอีกครั้ง และนักลงทุนอาจได้เห็นเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ เงินยูโรไม่ได้รับแรงหนุนจากรายงานสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของ ZEW ที่ปรับตัวดีขึ้นในวันอังคาร ถึงกระนั้น นักลงทุนก็เชื่อว่าการฟื้นตัวของภูมิถาคยูโรโซนได้กลับมาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
นักลงทุนในตอนนี้จะให้ความสนใจกับการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมันในวันพุธ ซึ่งตลาดเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงขึ้น นักวิเคราะห์เชื่อว่าตัวเลขเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้นจาก 8.6% เป็น 8.7% ซึ่งจะเป็นการเน้นย้ำถึงความตั้งใจของ ECB ที่จะดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
นอกจากนี้ จะมีการรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจจาก IFO ของเยอรมนี ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 91.2 จาก 90.2
นักวิเคราะห์บางกลุ่มเชื่อว่าข้อมูลตัวเลขทั้งสองอาจจะไม่สร้างความผันผวนมากนักก่อนทราบราบงานการประชุมของเฟดในเซสชั่นอเมริกา
รายงานผลการประชุมเฟดจะเป็นจุดเริ่มต้นของความคึกคักในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะในวันต่อมาจะมีการประกาศตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สอง และ EURUSD น่าจะมีความผันผวนมากขึ้นในช่วงใกล้สุดสัปดาห์
สำหรับแนวโน้มปัจจุบัน เทรดเดอร์อาจมองข้ามข้อมูลเศรษฐกิจที่บวกบางตัวของยุโรปไปก่อน และหันไปให้ความสำคัญกับการดำเนินการของเฟดในอนาคต และเศรษฐกิจอเมริกาที่แข็งแกร่ง ซึ่งนั่นอาจกระตุ้นให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอีกในช่วงสุดสัปดาห์