ก่อนหน้านี้ EURUSD เคยปรับตัวขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ 1.12 แต่หลังจากนั้นก็ได้ย่อตัวกลับลดลงมาอยู่ในกรอบราคาขาขึ้นตามเดิม
กราฟ EURUSD รายสัปดาห์
ราคาปัจจุบันของ EURUSD เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.10 โดยมีแนวรับต่ำกว่า 1.08 อยู่กับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
วันอังคารนี้จะมีการประกาศข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจจากเยอรมนีนั่นก็คือการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจจากง IFO ซึ่งคาดว่าจะลดลงเหลือ 88 จาก 88.4 นี่เป็นการปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดที่ 93.5 ในเดือนเมษายน หากตัวเลขที่ออกมาสูงขึ้น นั่นอาจทำให้ EURUSD ปรับตัวสูงขึ้นได้
พรุ่งนี้จะมีการประกาศคัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยคาดว่าตัวเลขที่ออกมาจะเพิ่มขึ้นไปเป็น 111.8 จาก 109.7 นั่นน่าจะทำให้ USD อยู่ในเส้นทางขาขึ้นได้ต่อท่ามกลางความเสี่ยงว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัวหรือไม่ และการอ่อนค่าของเงินยูโร
วันพฤหัสบดีจะดึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากเศรษฐกิจเยอรมัน และคาดว่าจะเป็นตัวเลขที่อ่อนแออีกครั้งเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
เหตุการณ์สำคัญนั้นอยู่ในวันพฤหัสบดี เมื่อธนาคารกลางยุโรปจะประกาศผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด ในวันเดียวกันจะมีผลการประชุมดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์กำลังเก็งกันอยู่ว่าธนาคารกลางทั้งสองจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในการประชุมรอบนี้เลยหรือไม่
ปัจจุบันเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 3% YoY ซึ่งเป็นอัตราเติบโตช้าที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ในขณะเดียวกัน ยูโรโซนก็คาดว่าจะมีอัตราเงินเฟ้อลดลงเหลือ 5.3%
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่ประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ และประธาน ECB นางคริสติน ลาการ์ด จะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป โดยมีความเป็นไปได้ที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้งในปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง
นักวิเคราะห์จาก Investec กล่าวว่า “การปรับดอกเบี้ยขึ้น 25 จุดเบสิสจากทั้งสองธนาคารกลางฯ ดูเหมือนเป็นข้อตกลงที่เสร็จสิ้นแล้วและเป็นไปตามที่คาดการณ์กันอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม คำถามที่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญมากกว่านั้นคือ จะถึงจุดสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยแล้วหรือไม่ หรือจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายนหรือไม่” นักวิเคราะห์จาก Investec กล่าว
นักเศรษฐศาสตร์จาก Deutsche Bank กล่าวว่า “ECB ต้องการให้ตลาดเข้าใจถึงความมุ่งมั่นในการกดอัตราเงินเฟ้อให้กลับลงไปอยู่ในกรอบราคาเป้าหมายในเวลาที่เหมาะสม และความเต็มใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ใน “ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น” หากจำเป็น” นักเศรษฐศาสตร์จาก Deutsche Bank กล่าว