การตัดสินใจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลับสอดคล้องกับความคาดหวังของตลาด ECB ยังคงรักษานโยบายการเงิน เงินฝาก เงินกู้ และตัวบ่งชี้อัตราดอกเบี้ยอื่นๆ อีกสามตัวในการประชุมครั้งนี้ไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ธนาคารกลางจะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ (APP) ในวันที่ 1 กรกฎาคม และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเบสิสในเดือนกรกฎาคม ขอบเขตการเติบโตของเงินเฟ้อจะเป็นตัวกำหนดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ดังนั้นกราฟคู่ EURUSD ขึ้นหยุดปรับตัวขึ้นที่ 1.0750
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ตลาดลงทุนจะให้ความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางหลายๆ ประเทศ ยกตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น ประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย แต่สิ่งที่ตลาดให้ความสำคัญมากที่สุดคือนโยบายการเงินโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งถือเป็นเจ้าตลาดการเงิน
ตลาดคาดว่าเฟดจะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดเบสิส ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กลายเป็น 1.5% หากผลการประชุมเฟดเป็นไปตามที่ตลาดคาด ความผันผวนในสินทรัพย์ทั่วโลกจะมีไม่สูงนัก หลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ไปแล้ว นักลงทุนหวังว่าเฟดคาดว่าจะหยุดการดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวในเดือนกันยายน สมมติว่าเฟดยืนยันที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในเดือนกรกฎาคมตามแผนเดิม ในกรณีนั้น ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ อาจยังสามารถอยู่เหนือ 104 จุดได้ โและถ้าเฟดย้ำว่ายังต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างหนักในเดือนกันยายน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสที่จะขึ้นทดสอบระดับราคา 105 หรือ 106 จุด
แรงกดดันในสกุลเงินปอนด์มีสูง
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) จะประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้ สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจในการประชุมครั้งนี้คือขนาดและจำนวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ที่วางแผนไว้ในระหว่างปี หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญว่าเงินปอนด์จะแข็งค่าได้หรือไม่คือความกังวลว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งเดียว 50 จุดเบสิสก่อนเดือนกันยายนนี้เลยหรือไม่ การทำนโยบายการเงินเชิงรุกของ BoE อาจยังคงหนุนค่าเงินปอนด์ต่อไป มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นยืนเหนือ 1.25 อย่างไรก็ตาม ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร และลดความคาดหวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลง อัตราดอกเบี้ยในสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ จะสร้างแรงกดดันให้เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หรือไม่ก็ผลักกราฟ GBP/USD ลงทดสอบจุดต่ำสุดในรอบเดือนที่ 1.2160 ถ้าหลุดแนวรับนี้ลงมา มีโอกาสที่กราฟจะลงไปถึง 1.20