ดูเหมือนว่าแรงกดดันในตลาดหุ้นทั่วโลกยังไม่ได้จางหายไปไหนเมื่อดัชนีตลาดหุ้นเยอรมัน DAX ปรับตัวลดลง 1.59% เช่นเดียวกันกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงมาประมาณ 2.8% แท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นกับกราฟดัชนี DAX รายวันแสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสที่ราคาดัชนีจะสามารถปรับตัวลดลงได้มากกว่านี้อีก ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตพลังงานในยุโรป
กราฟ DAX รายวัน
อดีตมหาอำนาจอุตสาหกรรมของโลกอย่างเยอรมนีกำลังเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรง เมื่อตัวเลขความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) ของเยอรมนีและยุโรปกลายเป็นอีกปัจจัยกดดันที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของทวีปนี้
การลดลงของตลาดหุ้นในวันนี้เป็นเพราะข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ออกมาอยู่ที่ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงเหลือประมาณ 8% เปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้มีข้ออ้างในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป ในขณะเดียวกัน รายงาน CPI พื้นฐานของเดือนสิงหาคมในสหรัฐอเมริกาก็สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยมีตัวเลขออกมาอยู่ที่ +0.6% MoM และ +6.3% YoY
หลังจากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้ออเมริกาในวันนี้ นักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปี 2023 อีก +25 bps ขณะนี้นักลงทุนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศสหรัฐอเมริกา (Fed Fund Rate) จะขึ้นสูงสุดที่ 4.31% ในเดือนเมษายน 2023 ก่อนที่จะจะถูกลดลงไปยัง 3.83% ภายในสิ้นปี 2023
ตอนนี้นักลงทุนเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 bps ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ FOMC ในสัปดาห์หน้า ตัวเลขเงินเฟ้อในยุโรปที่จะออกในวันพฤหัสบดีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% จากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 4%
นักลงทุนควรจับตาดูความเคลื่อนไหวของ DAX ในเซสชั่นเอเชียวันนี้ เนื่องจากมีโอกาสเผันผวนก่อนที่เซสชั่นยุโรปจะเริ่มขึ้น