การล่มสลายของผู้บริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนาม FTX ได้ทำให้ราคาบิทคอยน์ร่วงลงอย่างมหาศาลในสัปดาห์ที่แล้ว เชื่อหรือไม่ว่าภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว นายแซม แบงก์แมน ฟรายด์ เจ้าของอาณาจักร FTX ต้องสูญเสียมูลค่าไปมากกว่า 94%
กราฟบิทคอยน์ 4 ชั่วโมง
แม้ว่าตอนนี้บิทคอยน์จะมีความผันผวนมากอยู่แล้ว แต่เราคาดว่าในสัปดาห์นี้ความผันผวนจะคงอยู่ต่อไปโดยมีโอกาสที่ราคาจะลงไปทดสอบจุดต่ำสุดล่าสุดอีกครั้ง ปัญหาที่เกิดกับบิทคอยน์ตอนนี้หลักๆ คือการถอนเงินออกตลาดของนักลงทุนสถายัน ซึ่งส่งผลให้สภาพคล่องของตลาดหดหายลง
แต่ปัญหาใหญ่ระลอกใหม่ของวงการเริ่มต้นในวันที่ 2 พฤศจิกายนเมื่อเว็บไซต์ Coindesk ได้เขียนบทความเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องที่ Alameda Research ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ FTX แม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธมาโดยตลอด หลังจากนั้น Binance ก็ได้ทิ้งการถือครองเหรียญ FTT ของ FTX ทั้งหมด และตามมาด้วยการประกาศซื้อกิจการของ Binance
เรื่องราวดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่สิ่งเกิดขึ้นหลังจากผ่านการตรวจสอบสถานะทางการเงินของ Binance ก็คือการล้มเลิกข้อตกลงตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเอาไว้ นั่นจึงทำให้ราคาเหรียญโทเค็น FTT ทรุดตัวลง เตามมาด้วยข่าว CEO ของบริษัทก้าวลงจากตำแหน่งหลังจากกระบวนการล้มละลาย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็ยังมีเคราะห์ซ้ำกรรมเซาะ เมื่อ FTX ถูกแฮ็ค คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 600 ล้านดอลลาร์ สร้างผลกระทบต่อภาพความน่าเชื่อถือของวงการคริปโตฯ จนทำให้ BTCUSD ร่วงลงและมีราคาซื้อขายต่ำกว่าระดับ $17,000
ก่อนหน้านี้ FTX เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มั่นคง ในปีนี้ พวกเขาเคยได้ช่วยเหลือบริษัทต่างๆ รวมถึงการให้เงินกู้ฉุกเฉินในตอนก่อนที่ Terra fจะล่มสลาย
นักวิเคราะห์จากธนาคารเชื่อดัง JPMorgan คาดว่าราคาบิทคอยน์อาจลดลงอีก 25% เนื่องจากต้องมีการ “การเรียกเงินประกัน” คืน อนึ่ง บิทคอยน์นั้นอยู่ในตลาดหมีอย่างรุนแรงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ร่วงลงจาก $64,000 ลดลงมาเหลือ $16,000 ในตอนนี้ บิทคอยน์มีความเสี่ยงที่จะร่วงลงไปถึง $10,000 หากมีการชำระเงินประกัน สถานการณ์ในตลาดคริปโตฯ สัปดาห์นี้ถือว่ามีความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์มากอยู่พอสมควร