หุ้นบริษัทไป่ตู้ในวันอังคารปรับตัวขึ้นหลังจากบริษัทมีรายงานว่าผลกำไรเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
กราฟ BIDU รายสัปดาห์
หุ้นไป่ตู้เพิ่มขึ้น 4% เคลื่อนไหวอยู่ที่ 127.55 โดยมีแนวรับอยู่ ณ 117.50 หากราคาปรับตัวลดลงมา
เมื่อวันอังคาร บริษัทเสิร์ชเอ็นจิ้นและ AI ชื่อดังของจีนสามารถเอาชนะรายงานผลประมาณการรายได้ไตรมาสสอง กำไีรี้ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งด้านการโฆษณา ธุรกิจต่างๆ เริ่มเพิ่มการใช้จ่ายในโฆษณาดิจิทัลหลังข้อจำกัดเรื่องโควิดในประเทศจีนผ่อนคลายลง อนึ่ง ไป่ตู้สร้างรายได้ส่วนแบ่งมหาศาลจากการโฆษณา
ไป่ตู้ยังได้ให้ความสำคัญกับ Ernie บอทจำลองภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์
โรบิน หลี่ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Baidu กล่าวว่า “ในไตรมาสที่สองของปี 2023 Baidu Core เร่งการเติบโตของรายได้และผลกำไรโดยได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจการตลาดออนไลน์ และการใช้ประโยชน์จากการดำเนินงาน”
เขาเสริมว่าบริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้าง “กลไกใหม่” สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือ AI รายรับของบริษัทในไตรมาสจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนอยู่ที่ 34.06 พันล้านหยวน (4.67 พันล้านดอลลาร์) เทียบกับประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 33.28 พันล้านหยวน
นอกจากนี้ หลี่ให้ข้อมูลกับนักวิเคราะห์ว่ารายรับจากการตลาดออนไลน์ของบริษัทเพิ่มขึ้น 15% ในขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 3% ตลอดทั้งปี “ในช่วงครึ่งหลังของปี เราน่าจะยังคงเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวที่ชัดเจนสำหรับธุรกิจการตลาดออนไลน์ของเรา”
ข่าวดีอีกประการหนึ่งคือแท็กซี่อัตโนมัติของบริษัทที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 149% ในการให้บริการด้วยโรโบไรด์ตลอดทั้งปี ปัจจุบันบริษัทได้ให้บริการแท็กซี่อัตโนมัติแล้วมากกว่า 3 ล้านคัน
นอกจากผลประกอบการของบริษัทจะแข็งแกร่ง พวกเขาก็สามารถปรับตัวดีขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจีนกำลังอ่อนแอได้ การฟื้นตัวของประเทศจีนหลังยุคคุมเข้มโควิดโตน้อยกว่าคาด และตอนนี้นักลงทุนก็กำลังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานะของภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Alibaba และ Tencent ได้เข้าร่วมกลุ่ม LLM ทำให้เกิดคำถามว่า Baidu จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในปัจจุบันได้หรือไม่ CEO ของไป่ตู้กล่าวว่าบริษัทกำลังรอการอนุมัติจากรัฐบาลในการเปิดตัวคู่แข่ง ChatGPT สู่สาธารณะ มีความไม่แน่นอนบางประการเกิดขึ้นเพราะปัญหากฎระเบียบที่เริ่มบังคับใช้ในเดือนสิงหาคมที่กำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนจึงจะสามารถเปิดตัวบริการ AI สู่ตลาดได้
“Baidu ถูกมองว่าเป็นผู้นำด้าน generative AI เพราะมีการลงทุนที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” Vey-Sern Ling นักวิเคราะห์จาก Union Bancaire Privee กล่าวก่อนประกาศผลประกอบการของไป่ตู้ว่า “แต่การพัฒนา generative AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น”