สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงิน AUDUSD โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัปดาห์ที่มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของอเมริกา
กราฟ AUDUSD รายวัน
AUDUSD ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ปรับตัวขึ้นจากแนวรับ แต่ขาขึ้นนั้นในวันศุกร์กลับยอมแพ้ นักลงทุนควรมองหาโอกาสรฟื้นตัวที่เป็นไปได้หาก AUDUSD ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจ
วันจันทร์จะเริ่มต้นด้วยการประกาศข้อมูลภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ที่สำคัญของสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายน
สัปดาห์ที่แล้วมีการชะลอตัวของคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น โรงงานและเครื่องจักร ล่าสุด ISM คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1 จากเดือนที่แล้ว ตัวเลขนี้ยังต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นมาตรวัดบ่งบอกถึงการขยายตัว/หดตัวในภาคอุตสาหกรรม
ข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วออกมาย่ำแย่ ยอดขายบ้านใหม่ที่รอปิดการขายลดลง อัตราการจำนองที่พุ่งสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการที่อยู่อาศัยในภาคอสังหาริมทรัพย์
ในวันอังคารนี้ เศรษฐกิจออสเตรเลียจะได้เห็นผลการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลียอีกครั้ง และความคิดเห็นจากประธานธนาคารกลางออสเตรเลียสามารถเป็นตัวขับเคลื่อนทิศทางของสกุลเงินออสซี่ได้
ธนาคารกลางของออสเตรเลียคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นครั้งที่สี่ติดต่อกัน “ภาคครัวเรือนออสเตรเลียได้รับผลกระทบมากที่สุดจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่าที่เคยมีมา” Robert Mead หัวหน้าร่วมฝ่ายบริหารพอร์ตลงทุนเอเชียแปซิฟิกของ PIMCO กล่าว “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนโยบายการเงินของออสเตรเลียจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจมากกว่าของสหรัฐอเมริกา”
ธนาคาร Westpac คำนวณว่าสินเชื่อบ้านใหม่ของออสเตรเลียมากกว่า 90% เป็นแบบลอยตัว เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดไว้เป็นเวลา 30 ปี นั่นทำให้อัตราการจำนองที่แท้จริงในออสเตรเลีย อยู่ที่ 5.6% จาก 2.75% เทียบกับ 3.6% จาก 3.3% ในสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้บริโภคชาวออสเตรเลียและเศรษฐกิจของประเทศ
“เงินออมส่วนเกินกำลังถูกกัดกร่อนรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ” โรเบิร์ตกล่าว “เราอยู่ในศูนย์กลางของการเปลี่ยนมาใช้การจำนองที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวจากอัตราดอกเบี้ยคงที่”
ยอดค้าปลีกในเดือนสิงหาคมก็อ่อนแอเกินคาดเช่นกัน เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในภาวะซบเซาอยู่แล้ว
“อัตราเงินเฟ้อตลอดเดือนสิงหาคมที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจทำให้เกิดความเสี่ยงว่าอาจจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อในไตรมาสที่สามและช่วงที่เหลือของปี” แอดิเลด ทิมเบรลล์ นักเศรษฐศาสตร์จาก ANZ กล่าว