ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลงจากข้อมูลเงินเฟ้อ ที่สามารถขึ้นแตะระดับสูงในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ราคาน้ำมันสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือระดับราคา 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันเบรนท์เป็นหนึ่งที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อวานนี้ ถือเป็นสินทรัพย์ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด ต้นทุนน้ำมันเบรนต์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่เมื่อวานนี้ที่ 103.32 ดอลลาร์ จากระดับราคา 96.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คิดเป็นการปรับตัวขึ้นมากกว่า 671 จุดภายในวันเดียว
ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมัน WTI พยายามที่จะปิดที่ระดับราคา 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลให้ได้ แต่ก็ยังทำได้เพียงสร้างจุดสูงสุดที่ 99.37 ดอลลาร์ ถึงกระนั้น WTI ก็ยังถือว่าปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้ จากระดับราคาที่ 92.81 ดอลลาร์ คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 656 จุดภายในวันเดียว
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมากในสัปดาห์นี้ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษในสัปดาห์ที่แล้วที่ 9.1% นักวิเคราะห์หลายคน รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์จาก Morningstar เตือนว่าราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้คือรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังน้ำมันดิบจะรายงานในวันพรุ่งนี้ ข้อมูลนี้จะพูดถึงปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่เก็บสะสมโดยบริษัทการค้าในสัปดาห์ที่แล้ว ที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า บ่อยครั้งที่ปริมาณน้ำมันเหล่านี้ถูกใช้ในการคำนวณระดับอุปสงค์และอุปทานน้ำมัน หากตัวเลขนี้ลดลงหมายความว่าจะมีความต้องการน้ำมันที่สูงขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า การคาดการณ์สำหรับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในครั้งนี้คือ -1.5 ล้าน ต่ำกว่าตัวเลขก่อนหน้านี้มากที่ 3.3 ล้าน หากตัวเลขที่ออกมาเป็นลบตามที่ตลาดคาดการณ์ เราอาจจะได้เห็นราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการที่สูงในปัจจุบัน
ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนฝั่งเอเชียวันนี้ ราคาน้ำมัน WTI สามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคาที่ 98.68 ดอลลาร์คาดว่าเป้าหมายต่อไปของราคาจะอยู่ที่ 101.10 ดอลลาร์ หากสามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคานี้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 106.66 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับอยู่ที่ $94.45 ต่อบาร์เรล
ในขณะเดียวกัน เป้าหมายต่อไปของน้ำมันเบรนท์อยู่ที่ 104.40 ดอลลาร์ การขึ้นยืนเหนือระดับราคานี้จะเปิดทางสำหรับการขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $110.10 โดยมีแนวรับก่อนหน้าที่ $97.80 ต่อบาร์เรล
ความแตกต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์
เทรดเดอร์มักจะสับสนระหว่างราคาน้ำมันทั้งสองประเภทนี้ บางคนมองว่ามันเหมือนกันเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ความจริงไม่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากราคาและคุณภาพน้ำมันแตกต่างกันไป เราได้กล่าวถึงข้อมูลของน้ำมันทั้งสองรูปแบบอย่างสรุปในด้านล่างนี้:
น้ำมันดิบ WTI เป็นน้ำมันเบาที่สกัดในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะจากรัฐเท็กซัส ดังนั้นชื่อของมันก็คือ Western Texas Intermediary (WTI) WTI ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในคุณภาพน้ำมันดีที่สุด ที่จำหน่ายในปัจจุบันทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่สามารถปรับแต่งได้ไม่ยาก ซึ่งทำให้เป็นที่ต้องการมากที่สุด
น้ำมันดิบเบรนท์ เป็นการผลิตน้ำมันที่มาจากทะเลเหนือ เบรนต์มีน้ำหนักหนักกว่า WTI เล็กน้อย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมราคาโดยทั่วไปจึงสูงกว่า WTI มีความถ่วงจำเพาะของ API ที่ 38.06 และมีปริมาณกำมะถัน 0.37%