ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้แข็งค่าขึ้นเนื่องจากรายงานการขายปลีกพื้นฐานและดัชนีการผลิตเฟดฟิลาเดลเฟียที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ข่าวดีนี้สอดคล้องกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลง ปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในสัปดาห์นี้ จนสามารถขึ้นมาอยู่ที่ 107.696
ถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวจากสมาชิกเฟดหลายคนในสัปดาห์นี้บอกถึงความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกรอบในการประชุมเดือนกันยายน ความเสี่ยงนี้ทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
แมรี่ เดลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ให้ความเห็นว่ายังมีช่องทางให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะหมดไป เธอเชื่อว่าเฟดยังจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps หรือ 75 bps ต่อไปเพื่อให้เงินเฟ้อกลับลงมาอยู่ในกรอบเป้าหมายของเฟดยังเป็นเรื่องที่เหมาะสม ในขณะเดียวกัน นิล คัชคาริ (Neel Kashkari) ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิส ได้กล่าวไปในทางเดียวกันว่าไม่เคยจินตนาการว่าสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่ายังเชื่อในความจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่หมัด
ดังนั้น การทำนโยบายการเงินให้มีความตึงตัวมากยิ่งขึ้นไม่ได้ทำให้สหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยมากเกินไปอย่างที่หลายคนกลัว
ยิ่งไปกว่านั้น นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์กล่าวว่าเขาต้องการจะเห็นขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 bps ในเดือนกันยายนมากกว่าสิ่งอื่นใด สิ่งนี้จะช่วยให้เฟดบรรลุเป้าหมายการควบคุมเงินเฟ้อของคณะกรรมการก่อนสิ้นปี 2022 ได้เร็วขึ้น นักลงทุนหวังว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 50 bps หรือ 75 bps อาจเป็นไปได้ในการประชุมครั้งถัดไปเดือนกันยายน
นักวิเคราะห์บางกลุ่มเชื่อว่าดัชนีค่าเงินดอลลาร์อาจอยู่เหนือระดับราคาปัจจุบันไปจนกว่าจะถึงการประชุมเฟดในเดือนกันยายน ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งกลับไม่คิดเช่นนั้น
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐคืออะไร
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐมีตัวย่อเรียกแทนว่า USDX หรือ DXY เป็นตัชนีที่สามารถซื้อขายได้ในตลาดฟอเร็กซ์ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐมีอิทธิพลอย่างมากต่อสกุลเงินอื่นๆ ในตลาดฟอเร็กซ์ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นมาตรฐานสำหรับการชั่งน้ำหนักมูลค่าของสกุลเงินต่างๆ
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ
ก. นโยบายการเงิน/การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย: นโยบายการเงินหมายถึงการตัดสินใจวางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการควบคุมอัตราดอกเบี้ย การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นนโยบายการเงินที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลดีต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างรุนแรงหลายครั้งในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาเป็นสาเหตุหลักว่าทำไมดัชนีค่าเงินดอลลาร์จึงปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดในปี 2022 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะลดลงทุกครั้งที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนทุกคนจึงให้ความสนใจกับการประชุม FOMC ที่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินเป็นอย่างมาก
ข. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI): ดัชนีราคาผู้บริโภควัดการเปลี่ยนแปลงในราคาสินค้าและบริการที่เสนอให้กับผู้บริโภค CPI ถูกมองว่าเป็นมาตรวัดที่น่าเชื่อถือที่สุดในการวัดอัตราเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจ ข้อมูล CPI มีความสำคัญต่อนักลงทุน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักจะผลักดันให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตัวเลข CPI ที่สูงขึ้นส่งผลต่อดัชนีค่าเงินดอลลาร์ในทางบวก เนื่องจากนักลงทุนมักจะลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยหวังว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในการประชุมครั้งต่อไปของเฟด
ค. รายงานตัวเลขนอนฟาร์ม: รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรหรือนอนฟาร์ม (NFP) ที่เผยแพร่ทุกวันศุกร์แรกของเดือน เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจสำคัญที่วัดอัตราการว่างงานภายในประเทศ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลสำหรับงานใหม่ที่สร้างขึ้นภายในเดือนที่ผ่านมา อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นจะลดความแข็งแกร่งของ DXY ในทางตรงกันข้าม อัตราการว่างงานลดลงทำให้ DXY แข็งค่าขึ้น นักลงทุนให้ความสนใจกับข้อมูลนี้เสมอ เนื่องจาก NFP มักทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากในตลาดฟอเร็กซ์ทุกครั้งที่มีรายงานตัวเลข
ง. รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ: GDP ของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ทุกไตรมาสเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อความแข็งแกร่งของ DXY ตัวเลข GDP วัดมูลค่ารวมของสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาภายในปีการเงิน ข้อมูลนี้ประกอบด้วยดัชนีการบริโภคทั้งหมด การส่งออกสุทธิ การลงทุน และรายจ่ายของรัฐบาล GDP ที่สูงจะเป็นผลดีต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ GDP ที่ต่ำลงอาจทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลงอย่างมาก
จ. การผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE): QE เป็นนโยบายการเงินของธนาคารกลางในการส่งเสริมเศรษฐกิจและจัดหาสภาพคล่องในตลาดทุนด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยและส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ บ่อยครั้งที่ QE เกี่ยวข้องกับการผลักดันเงินเข้าสู่เศรษฐกิจมากขึ้น และมักจะลดความแข็งแกร่งของดัชนีค่าเงินดอลลาร์เมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากมีปริมาณเงินในระบบมากขึ้น