ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมากกว่า 1% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หากคิดเป็นตลอดทั้งสัปดาห์พบว่าปรับตัวลดลงประมาณ 1.5% ถือเป็นการร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน ตลาดลงทุนพยายามสร้างสมดุลระหว่างความกังวลด้านอุปทานกับความกังวลทางเศรษฐกิจที่ก่อตัวขึ้นใหม่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในรัฐมิชิแกนของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม 2023 ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 57.7 จาก 63.5 ในเดือนเมษายน ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคไม่มีความเชื่อมั่นและสภาพศก.แย่ลง
ราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงเนื่องจากความกังวลด้านอุปทานและเศรษฐกิจทวีความรุนแรงขึ้น อุปสงค์ที่ชะลอตัวฉุดราคาลงจากจุดสูงสุดประจำสัปดาห์ที่สูงกว่า 73 ดอลลาร์ ขณะนี้ WTI กำลังพยายามรักษาระดับแนวรับเอาไว้ที่ $70 ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันโลกนั้นมีราคาต่ำกว่าราคาที่เคยยืนอยู่ในช่วงต้นเดือนเมษายน หลังจากซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย และสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัสกล่าวว่าพวกเขาจะลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โอเปกคงการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกสำหรับปี 2023 ไม่เปลี่ยนแปลง พวกเขาคาดว่าความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจะถูกชดเชยด้วยการเติบโตของอุปสงค์ของจีนที่สูงขึ้น
เมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจระดับมหภาค รายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐในสัปดาห์นี้จะมีความสำคัญที่กระทบต่อราคาน้ำมัน ก่อนหน้านี้ ตัวเลขยอดค้าปลีกในรอบสองเดือนปรับตัวลดลง แต่ครั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7 เปอร์เซ็นต์ ลดความกังวลที่มีอยู่รอบ ๆ ตลาดน้ำมันหากตัวเลขที่ออกมาเพิ่มขึ้นไกลกว่าที่คาดไว้
หากราคาน้ำมันดิบ WTI ยืนอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ มีโอกาสที่อาจฟื้นตัวขึ้นและไปทดสอบที่ 73 ดอลลาร์หรือสูงกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะยังคงเป็นปัจจัยจำกัดขาขึ้น หากความกลัวภาวะถดถอยที่เกิดจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ นักลงทุนควรให้ความสนใจราคาน้ำมันดิบที่แนวรับ 65 ดอลลาร์เป็นเป้าหมายแรก