เมื่อเดือนที่แล้ว หุ้น Coca-Cola ได้ร่วงลงมามากกว่า 6% และรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 นี้ บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหุ้นของตนจะสามารถฟื้นคืนกลับมาได้
กราฟหุ้น KO รายสัปดาห์
หุ้น KO เคลื่อนไหวอยู่ที่ 54.57 ดอลลาร์ หลังดีดตัวขึ้นจากแนวรับที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2021 ที่ 52.45 ดอลลาร์
เช่นเดียวกับสถานการณ์ของหุ้น Pepsico มีการพูดคุยกันว่า Coca-Cola กำลังได้รับผลกระทบจากความคลั่งไคล้ยาลดน้ำหนักอย่าง Ozempic และ Wegovy ยาดังกล่าวออกฤทธิ์ระงับความอยากอาหาร กล่าวกันว่าความนิยมยาตัวนี้กำลังส่งผลกระทบต่อความต้องการของบริษัทอาหารและเครื่องดื่ม
ในรายงานผลประกอบการของ Pepsico ยังไม่มีสัญญาณของปัญหาที่แท้จริง และรายได้ของ Coca-Cola ก็น่าจะเหมือนกัน ในผลประกอบการไตรมาสสอง ยอดขายโค้กสูงกว่าคาดการณ์เป็นไตรมาสที่ 10 ติดต่อกัน การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น Coca-Cola อยู่ระหว่าง 60 ถึง 75 ดอลลาร์ โดยมีประมาณการโดยเฉลี่ยสูงขึ้น 32%
ผลประกอบการไตรมาสสามของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของรายได้ในแต่ละภาคส่วนที่มีการดำเนินงาน กำไรของบริษัทได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่มีทางเลือกหลากหลายและยอดขายสินค้าเฉพาะที่เพิ่มขึ้น
Coke มีการทำงานบนช่องทางดิจิทัลและเห็นการเติบโตจากอีคอมเมิร์ซ พวกเขามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสองเท่าในหลายประเทศ KO ได้เร่งการลงทุนเพื่อสร้างความสามารถด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคเพราะต้นทุนห่วงโซ่อุปทานที่สูงขึ้น เช่น ต้นทุนวัตถุดิบและการส่งมอบสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบยังถูกกดดันเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และอาจส่งผลกระทบของบริษัทในระยะสั้น
อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลงอาจนำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในปีหน้า หุ้นบริษัทซื้อขายอยู่ที่ประมาณระดับ 24 เท่าของกำไร ซึ่งใกล้เคียงกับจุดสูงสุดของค่าเฉลี่ยล่าสุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
หุ้นโค้กอาจเป็นการซื้อที่คุ้มค่าสำหรับนักลงทุนระยะยาว แต่ข้อมูลใดๆ ในการรายงานผลประกอบการวันอังคารที่จะถึงนี้หากเป็นลบอาจทำให้ราคาหุ้นลงไปทดสอบแนวรับในปี 2021 ได้อีกครั้ง