นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันได้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคาระหว่าง $82 – $70 ต่อบาร์เรลโดยประมาณ เมื่อการเปิดประเทศของจีนอีกครั้งยังมากพอที่จะพาราคาน้ำมันให้หลุดกรอบการเคลื่อนไหวนี้ไปได้ นักลงทุนจึงกลับไปมีความหวังกับกลุ่มผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันอย่าง OPEC อีกครั้ง
กราฟ USOIL รายวัน
ราคาน้ำมันดิบ WTI (USOIL) มีราคาซื้อขายอยู่ในกรอบตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ราคาในปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ที่ $78.39 ต่อบาร์เรล มีแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น แต่ได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคลังที่ปรับตัวลดลง
นักวิเคราะห์เชื่อว่าจีนจะเป็นผู้ผลักดันการใช้น้ำมันให้กลับมาอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปีนี้ ประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกได้กลับมาเปิดเมืองอีกครั้งหลังจากที่ต้องล็อกดาวน์เพราะโควิด สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 101.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีแรงหนุนหลักเกือบทั้งหมดมาจากความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นในฝั่งเอเชีย
เหตุการณ์นี้นำไปสู่การคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะยังคงแข็งแกร่งตลอดทั้งปีนี้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในตอนนี้ยังคงพยายามที่จะกลับไปรักษาระดับการยืนเหนือ $80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสแรกของปี 2023 ให้ได้ การคาดการณ์ของ IEA เชื่อว่าความต้องการน้ำมันดิบนั้นอยู่ที่ 200,000 บาร์เรลต่อวัน มากกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว IEA คาดการณ์ว่าการเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบจะมากกว่าสองล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ โดย 1.4 ล้านบาร์เรลจะเป็นของประเทศในเอเชีย จากข้อมูลของ IEA ประเทศจีนเพียงที่เดียวจะคิดเป็น 900,000 บาร์เรลต่อวัน เกือบครึ่งหนึ่งของการเติบโตตลอดทั้งปี
ด้วยความต้องการพลังงานของจีนในปีนี้ นักลงทุนอาจพิจารณาว่ากลุ่มโอเปกจะเป็นผู้ผลักดันราคาพลังงานให้สูงขึ้น กลุ่ม OPEC ระบุว่าจะยังคงใช้โควตาการผลิตน้ำมันเมื่อปลายปีที่แล้วไปตลอดทั้งปี 2023 แม้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะกลับมาอีกครั้งและรัสเซียจะลดกำลังการผลิตลงก็ตาม
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Suhail Al Mazrouei รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวว่าตลาดน้ำมันดิบในตอนนี้มีความสมดุล ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในบางภูมิภาคชดเชยกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่อื่นๆ
“กุญแจสำคัญที่จะทำให้อุปสงค์น้ำมันในปี 2023 เติบโตได้คือการกลับมาของจีนจากข้อจำกัดด้านการขนส่ง ความกังวลที่นักลงทุนในตลาดตอนนี้มีคือจังหวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศจีน”
โอเปกอาจมีความสำคัญต่อราคาน้ำมันในปีนี้หากพวกเขาจะปรับการกำลังการผลิตเทียบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ภาพรวมทางการเงินของจีนและสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวมากขึ้นจะกระตุ้นความต้องการพลังงานในประเทศ แต่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจตามที่นักวิเคราะหคาดการณ์ไว้อาจทำให้การผลิตลดลง